ไม่มีศาสนา ไม่บ้าเทศกาล No Religion, Pay No Attention To Festivals

เป็นคนไม่นับถือศาสนา จึงไม่บ้าเทศกาลตามศาสนา

ก็ยอมรับตรง ๆ ว่า การออกจากศาสนา นั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบากและกดดันอย่างมาก เพราะว่า สังคมของสยามประเทศ หากใครออกจากศาสนาพุทธ ต้องเผชิญแรงกดดันจากบรรดาญาติพี่น้อง แต่กรณีของเรามันมีปรากฏการณ์ (Phenomenon) และ การตัดสินใจตามปรากฏการณ์นั้น ก็เนื่องด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดก่อนหน้านั้นด้วย

ยามที่ถูกญาติพี่น้องกดดันในเรื่องนี้ เราก็จะยกปรากฏการณ์นั้นขึ้นมา และพวกเขาก็จะเงียบ โต้แย้งไม่ได้

ผ่านกาลเวลาไปจะครบ 17 ปี หลังคริสต์มาส ในปีนี้

ได้พิจารณาอย่างถ่องแท้แล้วว่า ตนเองไม่ใช่บุคคลสำคัญอันใด จนถึงขนาดที่ พระเจ้า เทวดา พระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะต้องมาคอยปกปักรักษา และดลบันดาลให้เป็น ให้มี...

และมีความสำคัญถึงขนาดที่ พระเจ้า เทวดา พระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยอมทำตามคำขอของเรา ที่ขอให้พระเจ้า เทวดา พระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้บุคคลนั้นเป็น มี...

อีกทั้ง การที่เราไม่นับถือศาสนา ถึงขอไป พระเจ้า เทวดา พระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็คงจะเมินเฉย

สรุปก็คือ ใครอวยพรให้เรา เราอวยพรให้ใคร ก็ไม่บังเกิดผล

ดังนั้น ตั้งแต่ปีใหม่ 2025 นี้เป็นต้นไป เราจึงไม่มีคำอวยพรใด ๆ นอกจากกล่าวคำว่า สวัสดีปีใหม่

จึงต้องขออภัยกับการไม่ตอบสนองใด ๆ สำหรับ การอวยพรจากทุกท่าน เนื่องในทุกเทศกาล